วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

ทำไมค้องทำคีเลชั่นบำบัด


🍀เหตุผลที่ควร คลีเลชั่น🍀

สารพิษโลหะหนัก ออกฤทธิ์อย่างไรต่อร่างกาย
 
โดย นพ.ฉัตรชัย ศรีบัณฑิต

ปัจจุบันพบว่าโลหะหนักที่แม้ว่าจะมีปริมาณในร่างกายเพียงเล็กน้อยในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดพิษ แต่ก็ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อร่างกายหลายประการ เพราะโลหะหนักจะเข้าไปรบกวนการทำงานของแร่ธาตุต่างๆในร่างกาย โดยปกติแล้วแร่ธาตุเหล่านี้จะช่วยเร่งปฏิกิริยาการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย เช่น การสร้างพลังงาน การใช้สารอาหารการสร้างฮอร์โมน เป็นต้น ส่งผลให้ระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายหยุดชะงักไป นอกจากนั้นสารโลหะหนักก็ยังเป็นอันตรายต่อผนังเซลล์ เมื่ออยู่บนผนังเซลล์ทำให้เกิดเสียสมดุลของประจุไฟฟ้า เกิดการทำลายผนังเซลล์ เซลล์จึงถูกทำลาย ก่อให้เกิดความผิดปกติในการแบ่งตัวของเซลล์ มากไปกว่านั้นโลหะหนักต่างๆยังเป็นตัวการก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำให้หลอดเลือดอักเสบ ผนังหลอดเลือดขรุขระ เกิดความไม่เรียบของพื้นผิว ส่งผลให้เกิดหลอดเลือดแข็ง เกิดพลาคหรือเกิดลิ่มเลือดอุดตันตามมา ดังรายงานการศึกษาวิจัยจำนวนมากที่ยกมากล่าวในตอนต้นแล้ว  สารโลหะหนักส่งผลต่อกลไกการสร้างไนตริก ออกไซด์ ของหลอดเลือดด้วย ทำให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่นและหดตัว กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเส้นเลือดตีบตัน และทำให้ความสามารถในการนำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกายน้อยลง ส่งผลให้เกิดความเสื่อมสภาพของอวัยวะในร่างกายอย่างต่อเนื่อง เช่น เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน ออทิสติก โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไตเสื่อม ตาเสื่อม โรคเรื้อรังต่างๆ สารโลหะหนัก ที่สะสมในต่อมหมวกไต ทำให้ต่อมหมวกไตสร้างฮอร์โมนลดลง เกิดภาวะต่อมหมวกไตล้า ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเร็ว ความเครียดสูง เช่นเดียวกับในต่อมไร้ท่ออื่นๆหากมีสารโลหะหนักสะสมก็จะทำให้สร้างฮอร์โมนต่างๆ ได้ลดลง  สารโลหะหนักสะสมยังส่งผลให้ผู้ป่วยเบาหวานไม่ตอบสนองต่อยาลดน้ำตาลในเลือด สารโลหะหนักสามารถนำไปสู่ภาวะเสื่อมของระบบประสาท เช่น ความคิด ความจำ และโรคซึมเศร้า เกี่ยวข้องกับการที่กระดูกพรุน ภาวะฮอร์โมนไธรอยด์ต่ำ ความเป็นพิษของโลหะหนักขึ้นอยู่กับรูปแบบทางเคมีของสารประกอบของโลหะหนักแต่ละชนิด และเส้นทางที่ร่างกายได้รับเข้าไป เช่น ทางระบบหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ผิวหนัง เป็นต้น ซึ่งสารพิษเหล่านี้เมื่อสะสมอยู่ในร่างกายจนถึงระดับหนึ่งก็จะแสดงอาการออกมาให้เห็น

ไม่มีความคิดเห็น: